Wednesday, October 12, 2011

Patchrapa Chaichua ( พัชราภา ไชยเชื้อ ) 2

 เชื่อว่าเมื่อคืนวันจันทร์-อังคารที่ผ่านมา

       คอละครคงจ้องจอ รอดูละครเรื่อง "เมียหลวง" อย่างใจจดใจจ่อ เพื่อรอดูนางเอกขวัญใจ "พัชราภา ไชยเชื้อ"

"อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ" เป็นนางเอกที่ถือว่าประสบความสําเร็จมากที่สุด และมีอิทธิพลต่อคนดูละครละบ้านเรามากที่สุด

       หลายคนไม่ชอบ "อั้ม"แต่ทุกครั้งที่มีละครของเธอลงจอ ก็อดที่จะดูไม่ได้ จะดูเพื่อจับผิด หรือ ดูเพราะชื่นชอบก็ตาม สิ่งที่ละครได้รับก็คือเรทติ้งที่พุ่งกระฉูด

       "อั้ม" เข้าสู่วงการบันเทิง จากการประกวดหนุ่มสาว "แฮ็คส์" เมื่อปี พ.ศ.2540 พร้อมกับคว้าตําแหน่งชนะเลิศ..จากนั้นก็มาเล่นมิวสิคเพลง "ไม่ใช่คนในฝัน" ของ ต้น-อาภากร กระทั่งเข้าตาช่อง 7 สี จึงจับเซ็นสัญญาเล่นละครเรื่องแรก "มณีเนื้อแท้" จากนั้นก็มีผลงานละครต่อเนื่อง

       ละครเรื่อง "คมพยาบาท" ในปี 2544 คือผลงานละคร ที่ชื่อของ "พัชราภา ไชยเชื้อ" ถูกเขียนลงกลางหัวใจคอละครอย่างเป็นทางการ พร้อมๆ กับภาพลักษณ์นางเอกสาวเซ็กซี่ ที่เข้ามาแทนที่ภาพนางเอกสวยใส


       ปัจจุบัน "อั้ม" คือนางเอกเบอร์ 1 ของช่อง 7 สี..ด้วยบทบาทการแสดงที่สะท้อนออกมาเป็น "เรทติ้ง" และ เรทติ้ง คือ ดัชนีชี้ให้เห็นว่า "อั้ม" คือนางเอกที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดของวงการในวันนี้

       เพราะเรทติ้ง..คือตัวเลขที่แสดงถึงความนิยมของประชาชนที่มีต่อวิทยุ-โทรทัศน์ ที่สํารวจผ่านบริษัทเอกชนคือ "เอซี นีลเส็น" ส่วนจะสํารวจออกมาในลักษณะไหน ตรงนั้นคือรายละเอียดปลีกย่อย เอาเป็นว่าเรทติ้งที่ผ่านการสํารวจออกมา เอเยนซีเชื่อถือและสามารถนําไปอ้างอิงกับเจ้าของสินค้าได้

       เรทติ้งละครที่สํารวจออกมา ส่วนมากจะติดอันดับอยู่ 2 สถานี คือ ช่อง 3 ช่อง 7 สี ไม่ได้หมายความว่าช่องอื่นๆ ผลิตรายการไม่ดี เรทติ้งจึงต่ำ แม้รายการจะดี แต่ถ้าขาดดาราที่มาเป็นตัว "ชูโรง" ก็ทําให้แป้กได้เช่นกัน

       คําว่า "ดารา" ว่าไปแล้วก็เหมือนกับ ผู้แทนฯ ที่จะต้องมี "ฐานเสียง" ดาราหลายคนหน้าตาดี อยู่ในวัยรุ่น บทบาทการแสดงก็ไม่ถึงขั้นขี้เหร่ แต่เล่นละครเรื่องไหน เรทติ้งก็ไม่ขยับ เพราะไม่มี "ฐานเสียง" นั่นเอง

       ผู้แทนฯ ที่เข้าไปนั่งในสภาได้ทุกยุคเหมือน นายชวน หลีกภัย, บรรหาร ศิลปอาชา ฯลฯ ก็เพราะมี "ฐานเสียง" ที่แข็งแกร่ง เลือกตั้งครั้งไหน จองที่นั่งไว้ล่วงหน้าได้เลย


       วิถีชีวิตของดารา ก็ไม่ต่างจากนักการเมือง คือ นอกจากจะเป็นคนของประชาชนเหมือนๆ กัน ความดัง และการมีอิทธิพลต่อคนดู ก็มาจากกระแสความนิยมด้วยเช่นกัน

       วิถี "ละคร" ไม่ต่างกับการผลิตรายการ..รายการถ้าเป็นของเวิร์คพอยท์ แค่เอากระดาษแผ่น 2 แผ่นไปพรีเซ้นต์เอเยนซี โดยที่รายการยังไม่ออกอากาศ..เอเยนซีก็แพลนโฆษณาให้จนล้น เพราะความเชื่อมั่น

       "ละคร" ก็ไม่ต่างกัน ดูว่าใครแสดงเป็นพระเอก-นางเอก มีดาราสมทบใครบ้างเนื้อหาละครเป็นยังไง ถ้า "โดนจริง" เอเยนซีก็ไม่ลังเลที่จะลงโฆษณา

ละครของ "อั้ม" ทุกเรื่อง ฝ่ายขายโฆษณาของสถานีไม่เหนื่อย เพราะเอเยนซีเชื่อมั่นว่ายังไงเรทติ้งจะต้อง "โชะ" แน่นอน

       นี่เป็นเหตุผลที่ว่า เหตุใด "คุณแดง-สุรางค์ เปรมปรีดิ์" จึงไม่ลังเลที่จะต่อสัญญาออกไปอีก..เพราะไม่ต้องการให้หลุดมือไปอยู่ช่องอื่น

       ดารารุ่นหลัง หลายคนอยากจะเป็น "อั้ม" ทั้งนั้น เพราะนอกจากจะมีชื่อเสียงแล้ว เงินทองยังไหลมาเทมา ทั้งงานแสดงและพรีเซนเตอร์สินค้า ที่จองคิวกันข้ามปี

       นางเอกคนแล้วคนเล่าพยายามที่จะเลียนแบบชีวิต การแต่งตัว ความเซ็กซี่เหลือล้นในการถ่ายแบบ แต่ก็ไม่เคยมีใครเป็น "พัชราภา หมายเลข 2" ได้สําเร็จ


ภาพลักษณ์อันร้อนแรงของนางเอกแนวเซ็กซี่ ถูกการันตีด้วยตําแหน่งตัวแม่ "สุดยอดสาวเซ็กซี่" ติดต่อกันหลายปี

       แทบทุกครั้งที่เธอปรากฏกายไปร่วมงาน สื่อมวลชนแทบทุกสื่อจะกรูกันไปรุมถ่ายรูป สัมภาษณ์เธอ พร้อมข่าวขึ้นปกในวันต่อมาอย่างพร้อมเพรียง

       ทุกงานที่ "อั้ม" ไปปรากฏตัว "อั้ม" คือดาราคนเดียวที่ช่างภาพ สื่อมวลชน ตั้งใจจะต้องเก็บภาพ และสัมภาษณ์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งก็เป็นยังงั้นจริงๆ เพียงแค่ก้าวลงจากรถ แสงแฟลชกับเสียงรัว  ชัตเตอร์วูบวาบ ไม่ต่างจากดาราดังของฮอลลีวู้ด

       สินค้าเครื่องสําอางประทินโฉม เริ่มตั้งแต่มิสทิน, สบู่ลักส์ ล้วนเป็นแบรนด์ระดับเบอร์แรกของเซ็กเมนต์สินค้าที่มีฐานผู้บริโภครู้จักและจดจําได้แล้ว ที่หวังใช้ "สูตรสําเร็จ" ให้ "อั้ม" เป็นสะพานนําแบรนด์ของตนไปสู่กลุ่มเป้าหมาย

       วิถีชีวิต "อั้ม" ก็เหมือนคนปกติทั่วไปที่มีทั้งคนชอบ-เกลียด แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง นาทีนี้เธอคือ "นางเอก" ที่ทรงอิทธิพลของวงการโทรทัศน์ และของเมืองไทย ยากที่ใครจะทาบรัศมีติด